วันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ข้อเท็จจริงโรคอ้วน

ยังไม่เคยเห็นใครที่ขันอาสาออกหน้ารับกับ”ความอ้วน” โดยยินดีสักครั้ง ทั้งนี้เพราะภาวะดังกล่าวเป็นภาวะล้นเกินของโภชนาการ หรืออาจมีเหตุจากความบกพร่องทางด้านความสมดุลของร่างกาย แถมยังก่อให้เกิดโรคร้ายตามมาอีกเป็นระลอก ที่แน่ ๆ สภาพของ “คนอ้วน” ไม่ค่อยน่าดูนักในสายตาของใครต่อใคร เว้นไว้แต่เป็นตัวตลกให้เพื่อนขำขันก็เท่านั้นดร.แกรมม์ คลักสตัน ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายโภชนาการ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก แสดงความเป็นห่วงว่าปัจจุบัน “โรคอ้วน” (Obesity) กำลังคุกคามสุขภาพของประชาชนเกือบทั่วโลก (ปัจจุบันมีประชากรราว 1,500 ล้านคน) หนึ่งในสี่ของปัญหาอยู่ในประเทศแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้โดยโรคอ้วนจะเพิ่มปริมาณผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และไขมันอุดตันในเส้นเลือด ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่น ออสเตรเลีย ได้พยายามรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงโรคภัยที่จะตามมากับภาวะอ้วน (FAT) ขณะเดียวกันประเทศที่เริ่มประสบปัญหากับโรคอ้วนควรต้องผลักดันปัญหาล้นเกินทางโภชนาการให้เป็นประเด็นสำคัญระดับชาติ
ข้อมูลจากราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ระบุว่า ภาวะอ้วนเป็นโรคอย่างหนึ่งซึ่งมีปริมาณไขมันในร่างกายมากกว่าปกติ โดยลักษณะการกระจายตัวของไขมันในร่างกายที่มีผลร้ายต่อสุขภาพนั้นแยกออกเป็น “อ้วนทั้งตัว” กับ “อ้วนลงพุง”อ้วนทั้งตัว – จะพบว่าผู้ป่วยมีไขมันทั้งร่างกายมากกว่าปกติ และไขมันที่มาก ๆ นั้นไม่ได้จำกัดอยู่ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งของร่างกายโดยเฉพาะอ้วนลงพุง – จะพบว่าผู้ป่วยมีไขมันของอวัยวะในช่องท้องมากกว่าปกติ รวมทั้งอาจมีไขมันใต้ชั้นผิวหนังบริเวณหน้าท้องเพิ่มขึ้นด้วยบางรายเป็นโรคอ้วนทั้งสองลักษณะแต่พบไม่มากนัก ส่วนใหญ่จะเป็นแค่เพียงลักษณะใดลักษณะหนึ่งเท่านั้นการวัดปริมาณไขมันในช่องท้องและไขมันใต้ชั้นผิวหนังบริเวณหน้าท้องจะบอกได้ว่าเราเป็นโรคอ้วนลงพุงหรือไม่ แต่จะวินิจฉัยว่าเป็นโรคอ้วนทั้งตัวหรือเปล่านั้น หากต้องการคำตอบที่แน่นอน ต้องทำการวัดดูปริมาณไขมันในร่างกายว่ามีมากน้อยขนาดไหน โดยใช้เครื่องมือพิเศษ ซึ่งสิ้นเปลืองและยุ่งยากทั่วไปจึงใช้ดัชนีความหนาของร่างกายเป็นหลักในการวินิจฉัย ประกอบกับอัตราส่วนของเส้นรอบเอวต่อเส้นรอบสะโพก มาตรฐานนี้ใช้สำหรับการประเมินภาวะการสะสมไขมันในกลุ่มคนที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปค่าความหนาของร่างกาย คำนวณได้โดยใช้น้ำหนักตัวเป็นกิโลกรัม หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลังสองน้ำหนักตัว (กิโลกรัม) หาร ส่วนสูง (เมตร)2ค่าปกติจะอยู่ระหว่าง 20.0-24.9 กก./ม2คนผอมจะมีความหนาน้อยกว่า 20.0 กก./ม2คนอ้วนจะมีความหนามากกว่า 24.9 กก./ม2หากค่าความหนาสูงกว่ามาตรฐานสามารถสรุปได้ว่าคุณเป็นโรคอ้วนแบบอ้วนทั้งตัว




การรักษา ใช้ปฎิบัติการ 3 อ คือการ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ คือ 1.ควบคุมอาหาร 2. ออกกำลังกาย 3.ควบคุมอารมณ์อยากในการรับประทาน นอกจากนั้นถ้าเป็นผุ้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มอ้วนในระยะที่ 1 และ 2 แล้วนั้น ปัจจุบันมียาที่สามารถรับประทานได้โดยมีผลข้างเคียงที่น้อย (ส่วนภาวะโยโย่นั้นน้อยกว่ายาอื่นๆ) ส่วนการผ่าตัดใช้ในรายที่มี BMI มากกว่า 40 ขึ้นไปที่โรคแทรกซ้อนอื่นเช่น เบาหวาน ความดัน และโรคหัวใจ




ในครั้งหน้าจะมาให้ความรุ้และความรู้จักในเรื่องของการใช้ยาเพื่อลดความอ้วน และเป็นยาที่ปลอดภัยอีกทั้งได้รับการผ่านการรับรองของ องค์การอาหารและยาของประเทศสหรัฐอเมริกา

































































































































ไม่มีความคิดเห็น: